วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 8 (23/02/2554)

สวัสดีคะอาจารย์ที่เคารพ วันนี้เป็นวันสอบกลางภาคคะไม่มีการเรียนการสอน


***เนื่องจากบล็อกหนูมีปัญหาต้องเผยแพร่ ครั้งที่8และ9 เพิ่มเป็น 2 ครั้ง ข้อความจึงจะเผยแพร่ข้อหน้าบล็อก

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 9 (29/12/2554)

วันนี้อาจารย์หยุดให้นักศึกษากลับบ้านเนื่องในวันปีใหม่และอาจารย์ยังให้นักศึกษากลับไปศึกษาภาษาท้องถิ่นกับภาษากลางว่าใช้ภาษาเหมือนกันหรือไม่ และดิฉันก็ได้ศึกษาภูไทยชึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของดิฉัน ซึ่งมีความแตกต่างดังนี้
ภาษาภูไทย ภาษากลาง
ลุเภ้อ ลูกสะใภ้
เอ็ดผะเหลอ ทำอะไร
ประโยชน์ที่เด็กได้รับจากการศึกษาภาษาท้องถิ่น
- ทำเด็กได้รู้ภาษาท้องถิ่น
- ทำให้เด็กรู้ความหมายของภาษาท้องถิ่น
- เด็กสามารถอยู่ร่วมกับสังคมในชุมชนได้


***เนื่องจากบล็อกหนูมีปัญหาต้องเผยแพร่ ครั้งที่8และ9 เพิ่มเป็น 2 ครั้ง ข้อความจึงจะเผยแพร่ขึ้นหน้าบล็อก

วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 16 (16/02/2554)

สวัสดีคะอาจารย์ที่เคารพ วันนี้เป็นการเรียนการสอนวันสุดท้ายอาจารย์ให้ฟังเพลงและให้บอกว่าในเพลงที่ฟังเค้าบอกอะไรและให้บอกความรู้สึกที่มีต่อเพลง และอาจารย์ให้เขียนข้อสอบ 2 ข้อ คือการจัดสภาพแวดล้อมและการจัดมุมที่ส่งเสริมทักษะทางภาษาแก่เด็กและวันนี้อาจารย์สรุปทบทวนเนื้อหาที่เรียนมาและเนื้อหาอาจารย์จะลงบล็อกให้ไปอ่านและทำความเข้าใจในเนื้อหา และเตรียมตัวสอบในวันที่ 27 ก.พ. 54


บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 15( 9/ 02 /2554)

สวัสดีคะอาจารย์ที่เคารพ วันนี้อาจารย์หยุดให้ เนื่องจากวิชาศิลปะเราเรียนเลยเวลาเพราะเราไปจัดกิจกรรมให้กับน้องในสาธิต และนักศึกษาก็เลยขออาจารย์หยุด 1 วัน อาจารย์ใจดีจึงให้หยุด แต่อาจารย์ก็ไม่ได้ให้หยุดเฉยๆ อาจารย์ให้กลับไปทำงานที่จะลง BLOGGER ให้เรียบร้อย และอาทิตย์หน้าอาจารย์จะสรุปเนื้อที่เรียนมาให้เป็นการทบทวนก่อนสอบ

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 14 (02/02/2554)

สวัสดีค่ะอาจารย์ที่เคารพ ในวันนี้อาจารย์สอนต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว เรื่องธรรมชาติของภาษาในวันอาจารย์สอนเนื้อหาเยอะมากอาจารย์ได้สอนเนื้อหาต่างๆเช่น กิจกรรมที่ทำให้ความรู้ทางภาษาของเด็กเพิ่มพูมขึ้นคือ กิจกรรมการอ่านร่วมกับผู้ใหญ่ ลักษณะสำคัญและกิจกรรมทางภาษาแบบองค์รวมคือ อ่านและเขียน ความเชื่อมโยงภาษาพูดกับภาษาเขียนคือ พูดเล่าภาษาสนทนาโต้ตอบกับจุดดสำคัญ การส่งเสริมและพัตนาภาษา คือ ผู้ใหญ่อ่านให้เด็กมองตามจากภาพและตัวหนังสือ ขั้นของพัฒนาการในการอ่านมีทังหมด 4 ขั้น
1) คำแรกที่อ่านต้องมีความหมายกับชีวิตเด็ก
2) เด็กผูกพันกับตัวอักษร
3)เด็กแยกแยะตัวอักษร
4)ระบบตัวอักษร
การรับรู้และพัฒนาการทางด้านภาษาเขียนของเด็กก่อนวัยเรียนมีอยู่ทั้งหมด 3ระยะ
1)แยกแยะความแตกต่างระหว่างสัญลักษณ์
2)เด็ฏเริ่มเขียนได้
3) เด็กเริ่มให้สัญลักษณ์การออกเสียงในขณะเรียน
การจัดสภาพแวดล้อม เราควรจัดให้สอดคล้องกับเนื้อหาสาระ และสรุปได้ดังนี้


วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 13 (26/1/2554)

วันนี้หนาวมาก เลยต้องเปิดแอร์แค่ตัวเดียว และอาจารย์สอนการทอดรหัสคำโดยใช้ภาพและคำผสมกันให้เกิดคำใหม่ และให้ร้องเพลง โดยใช้ภาพแทนการเขียน เพื่อให้เด็กอ่านจากภาพแล้วร้องเพลง อาจารย์ยังบอกเทคนิคการสอนร้องเพลงว่า การสอนร้องเพลงนั้นจะต้องให้เด็กอ่านตามอย่างชัดเจนก่อน แล้วค่อยใส่ทำนอง และอาจารย์ยังให้อ่านนิทานที่มีคำคล้องจ้องกัน มีประโยคที่ซ้ำๆกัน การที่เล่านิทานแล้วให้เด็กจินตนาการตามสามารถทำให้เราบูรณาการเข้ากับศิลปะได้ คือ เด็กวาดภาพตามเนื้อหานิทาน และอาจารย์ยังทวน “ธรรมชาติของภาษา”ที่นักทฤษฎีท่านต่างๆได้กล่าวไว้ให้แก่นักศึกษา กระบวนการเรียนนั้นบอกถึงบรรยากาศการเรียน การฟังการพูดของเด็กนั้นเด็กจะเรียนรู้ได้เองและเลียนแบบพ่อ แม่,ธรรมชาติ การอ่านการเขียนของเด็กอาจารย์บอกเทคนิคว่าเวลาอ่านให้ชี้ตัวหนังสือให้เด็กดู เด็กจะได้จำคำได้ และที่กล่าวมาข้างต้นเป็นแค่ตัวอย่างการเรียนการสอนของวันนี้เรามาดูเต็มๆที่แผนผังความคิดกันดีกว่าคะ


บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 12 (19/1/2554)

เรียนวันนี้สนุกมากคะเพราะอาจารย์มีกิจกรรมให้เล่นทั้งชั่วโมงเลย กิจกรรมแรกอาจารย์ให้หาคำคล้องจ้องต่อจากเพื่อน กิจกรรมนี้ทำใหเด็กรู้การใช้สระที่เหมือนกัน กิจกรรมต่อไปคือการคิดที่ถ่ายทอดความรู้สึก อาจารย์จะให้คำว่าแปลกใจ และให้เราบอกประสบการณ์ที่เราเคยแปลกใจมา ๑ ข้อ กิจกรรมนี้ทำให้เด็กได้ถ่ายทอดอารมณ์ออกมา กิจกรรมต่อไปคือวาดภาพแล้วนำมาต่อกันเล่าเป็นเรื่องราว โดยอาจารย์ให้วาดรูป ๑ รูป แล้วออกไปยืนเรียงกันและเล่าเรื่องต่อกันให้เป็นเรื่องเดียวกัน กิจกรรมนี้ทำให้เด็กรู้ทักษะในการแต่งประโยค กิจกรรมต่อไปคือการเล่าไปวาดรูปไป โดยเราจะเล่านิทานไปและวาดรูปตามเนื้อหา กิจกรรมนี้ทำให้เด็กฝึกจินตนาการ และกิจกรรมสุดท้ายคือ เกมกระซิบ คือให้เพื่อนคนแรกไปอ่านคำและกระซิบบอกต่อๆกันมาเลยๆจนถึงคนสุดท้ายและเฉลยว่าเหมือนคนแรกพูดหรือไม่ กิจกรรมนี้ทำให้เด็กได้ทักษะในการฟัง ในท้ายชั่วโมงอาจารย์ให้ “สระ อึ ” กลับไปคิดคำมาส่งวันศุกร์และทำลงในปฏิทิน ทักษะที่เด็กได้รับเป็นแค่ตัวอย่างมาดูเต็มจากแผนความคิดกันเลย